‘สิงห์ เอสเตท’ จับมือ ‘ไดวะ เฮ้าส์ กรุ๊ป’
‘สิงห์ เอสเตท’ จับมือ ‘ไดวะ เฮ้าส์ กรุ๊ป’ บริษัทก่อสร้างและรับสร้างบ้านชั้นนำของญี่ปุ่น
ประกาศร่วมทุนโครงการคอนโดมิเนียมลักชัวรี โปรเจกต์แรก EYSE Sukhumvit 43
‘สิงห์ เอสเตท’ จับมือ ‘ไดวะ เฮ้าส์ กรุ๊ป’ บริษัทรับก่อสร้างและรับสร้างบ้านรายใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในตลาดลักชัวรี ประเดิมโครงการแรก EYSE Sukhumvit 43 (อีส สุขุมวิท 43) มูลค่าโครงการ 2 พันล้านบาท มุ่งนำสุดยอดนวัตกรรมก่อสร้างและเทคโนโลยีสำหรับที่อยู่อาศัยจากญี่ปุ่นมาปรับใช้ในโครงการเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้าอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด พร้อมเผยเตรียมเจรจาขยายความร่วมมือรูปแบบอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต
นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ล่าสุดบริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาความร่วมมือกับทาง ไดวะ เฮ้าส์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้างและรับสร้างบ้านที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น โดยความร่วมมือนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการดำเนินธุรกิจของทางสิงห์ เอสเตท ตามนโยบายที่จะขับเคลื่อนธุรกิจสู่การเป็น “พรีเมียร์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ อินเวสต์เม้นท์ โฮลดิ้ง คัมปานี” (Premier Property Development & Investment Holding Company) ซึ่งแผนกลยุทธ์ในการร่วมทุนในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้บริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมรองรับโอกาสในอนาคต รวมทั้งยังส่งเสริมจุดแข็งของธุรกิจที่พักอาศัยในการขึ้นสู่การเป็น Leading Premium Developer ซึ่งถือเป็นหนึ่งในธุรกิจของบริษัทฯ
สำหรับการร่วมทุนในครั้งนี้ในฐานะตัวแทนของบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ที่ได้รับเกียรติร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในด้านการก่อสร้างและรับสร้างบ้านในประเทศญี่ปุ่นและในหลายประเทศอย่าง ไดวะ เฮ้าส์ เพราะความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นแรงสำคัญที่จะส่งเสริมให้การเติบโตทางธุรกิจของทั้งสองบริษัทเป็นไปตามแผนที่วางไว้ได้อย่างชัดเจนและบรรลุเป้าหมายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ด้านรายละเอียดการร่วมทุนระหว่างสิงห์ เอสเตท และ ไดวะ เฮ้าส์ ในครั้งนี้ เพื่อลงทุนและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัย โดยเบื้องต้นจะเริ่มโครงการแรกที่ EYSE Shukhumvit 43 (อีส สุขุมวิท 43) คอนโดมิเนียมลักชัวรี บริเวณซอยสุขุมวิท 43 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ซึ่งทางไดวะ เฮ้าส์ จะนำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการก่อสร้างจากญี่ปุ่น รวมถึงเทคโนโลยีสำหรับที่อยู่อาศัยเข้ามาปรับใช้ในโครงการ โดยมีเป้าหมายในการร่วมทุนเพื่อเป็น Strategic Partnership หรือร่วมทุนพัฒนาโครงการระยะยาวแบบต่อเนื่อง พร้อมกับมีแผนในการเจรจาเพิ่มเติมความร่วมมือรูปแบบอื่นๆ ในอนาคต”
นายโนบูยะ อิชิคิ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายงานต่างประเทศ บริษัท ไดวะ เฮ้าส์ อินดัสทรี จำกัด กล่าวว่า “บริษัทรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้ามาร่วมพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ร่วมกับทางสิงห์ เอสเตท เนื่องจากสิงห์ เอสเตท เป็นบริษัทที่เป็น good corporate citizenship มีความซื่อตรง และใส่ใจในคุณภาพชีวิตของชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยเรามีความมุ่งมั่นที่จะนำความเชี่ยวชาญในด้านงานก่อสร้างและความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อที่อยู่อาศัยต่างๆ ของทางบริษัท จะสามารถเข้ามาปรับใช้ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยร่วมกับทางสิงห์ เอสเตท ให้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นได้อย่างแน่นอน และการเข้ามาในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ทางเราจะได้เข้ามาศึกษาตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศไทย ทั้งเรื่องของการทำการตลาด และความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงการเข้ามาศึกษาสภาพแวดล้อมต่างๆ เพื่อประเมินความเป็นไปได้ในการนำนวัตกรรมก่อสร้างจากญี่ปุ่นเข้ามาประยุกต์ใช้ในประเทศไทย”
โดย ไดวะ เฮ้าส์ กรุ๊ป เป็นบริษัทรับสร้างบ้านรายแรกและรายใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น โดยมีความเชี่ยวชาญในการใช้นวัตกรรมการก่อสร้างที่ทันสมัยและมีการคิดค้นเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยได้มีการก่อตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีของตนเองที่เมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีและตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คน ดังเช่นวิสัยทัศน์ของบริษัทที่มุ่งมั่นในการสร้างคุณค่าใหม่ให้กับสังคม ผ่านการสร้างคุณค่าร่วมกับบุคคล ชุมชน และวิถีชีวิตของผู้คน
“สำหรับโครงการ EYSE Shukhumvit 43 (อีส สุขุมวิท 43) ที่ได้มีการเปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้รับความสนใจและการตอบรับจากลูกค้าทั้งที่กำลังมองหาที่พักอาศัยเพื่ออยู่เอง รวมถึงนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติเข้าเยี่ยมชมโครงการเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นโครงการแรกในเซ็กเม้นต์ Luxury Condominium ของบริษัท ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว มีคุณภาพชีวิตที่ดี ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมและสังคมที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง” นายนริศ เชยกลิ่น กล่าวปิดท้าย
เกี่ยวกับ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน)
สิงห์ เอสเตท เป็นบริษัทชั้นนำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุน (Premier property development and investment holding company) มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม โดยยึดหลักปรัชญาการเติบโตอย่างยั่งยืน รักษาความสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สร้างการเติบโตด้วยพอร์ทการลงทุนที่มีความสมดุลและหลากหลายจากการพัฒนาธุรกิจพื้นที่ค้าปลีก พื้นที่สำนักงานให้เช่า ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจที่พักอาศัย มุ่งเน้นลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพสูงทั้งในและต่างประเทศ เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทลงทุนและโฮลดิ้งระดับโลก ที่มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และนำเสนอคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม
เกี่ยวกับ Daiwa House Industry Company Limited
ไดวะ เฮ้าส์ กรุ๊ป (Daiwa House Group) เป็นบริษัทก่อสร้างและรับสร้างบ้านที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับบ้านสำเร็จรูป (Prefabrication) บริษัทได้ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1955 ที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น และบริษัทฯยังเป็นที่ยอมรับในฐานะบริษัท ผู้ผลิตที่อยู่อาศัยโดยการสร้างที่อยู่อาศัยสำเร็จรูปและสร้างเมืองใหม่ในช่วงระยะเวลาการเติบโตอย่างรวดเร็วทางเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่น
ในปี ค.ศ. 1961 บริษัท ไดวะ เฮ้าส์ อินดัสทรี ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศญี่ปุ่นและได้มีการลงทุนและพัฒนาธุรกิจต่างๆ เพิ่มเติม อาทิ ธุรกิจคอนโดมิเนียม, ธุรกิจรีสอร์ทและโรงแรม, ธุรกิจให้เช่าที่อยู่อาศัย, ธุรกิจอพาร์ทเม้น และธุรกิจพัฒนาโครงการที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ ทั้งบริษัทฯ ได้มีการขยายธุรกิจและการลงทุนไปในประเทศต่างๆอีก 20 ประเทศทั่วโลกครอบคลุมประเทศในอเมริกาและเอเชีย โดยในปี ค.ศ. 2017 บริษัทได้มียอดขายประมาณ 33 พันล้านเหรียญสหรัฐ
เกี่ยวกับ EYSE Shukhumvit 43 (อีส สุขุมวิท 43)
สำหรับโครงการ EYSE Shukhumvit 43 (อีส สุขุมวิท 43) เป็นโครงการคอนโดมิเนียมลักชัวรีโลว์ไรซ์โครงการแรกของสิงห์ เอสเตท ภายใต้คอนเซปท์เฉพาะตัวโครงการคือ “Embrace Your Hidden Fascination หรือ ชีวิตชีวาในโลกส่วนตัว” โดยโครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 43 บนพื้นที่ 1-3-69.4 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียมแนวราบความสูง 7 ชั้น จำนวน 2 อาคาร 107 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ซึ่งจุดเด่นของโครงการ คือ ทำเลที่ตั้งของโครงการที่ตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 43 ซึ่งเป็นซอยที่เงียบสงบและรายล้อมด้วยเพื่อนบ้านคุณภาพ แต่ก็อยู่ใกล้กับย่านพร้อมพงษ์ ที่เป็นทั้งศูนย์การธุรกิจและไลฟ์สไตล์ และอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ และศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์เพียง 550 เมตร จึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ต้องการทั้งความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัวและความมีชีวิตชีวาของไลฟ์สไตล์ใจกลางเมือง